Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ネトゲの嫁が人気アイドルだった ~クール系の彼女は現実でも嫁のつもりでいる~ - ตอนที่ 12.2
Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ch12-2
“จะตกใจอะไรขนาดนั้นเหรอครับ ในนั้นก็มีของกินตามปกตินะครับ
“ใช่ ของกินจริงๆ แต่..มีไข่แค่แพ็คเดียวในตู้เย็น
ไข่มันคือวัตถุดิบที่ดี ไข่ต้มฟองเดียวก็เป็นอาหารกลางวันที่ผมอยู่ได้แล้ว
“ผมเข้าใจสิ่งที่รินกะอยากจะบอกครับ คุณคงอยากจะให้ผมทานอาหารครบห้าหมู่ใช่มั้ยครับ ผมก็รู้เรื่องนั้นดีแต่ว่าผมมองว่ามันยุ่งยาก ถ้าผมมีเวลาว่างมานั่งทำอาหาร ผมอยากกดเกมหรือสู้เอาเวลาไปดูไลฟ์รินกะจะดีกว่าครับ”
“เปล่า สิ่งที่ฉันอยากบอกไม่ใช่เรื่องพวกนั้นเลย “
รินกะส่ายศีรษะ สบตาผมนิ่ง
“คุณแม่ของคาสึโตะตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอ”
“สงสัยน่าจะทำงานอยู่มั้ง”
“งานยุ่งเหรอ งั้นยิ่งแปลกละ แปลว่าท่านเป็นคนที่แทบจะไม่สนใจชีวิตคนในบ้าน… ไม่สิ มันเข้าขั้นปล่อยปละละเลย ลองคิดแบบเป็นตรรกะ เป็อะไรที่แปลกมากเลยคือทิ้งไว้แค่ไข่1แพ็คไว้ให้ลูกชายคนเดียว ทั้งที่เป็นแม่ของคาสึโตะคุงแท้..”
“เอ่อ ผิดแล้วครับ ขอแก้ความเข้าใจผิดนิดหนึ่ง”
“เข้าใจผิดอะไรเหรอ”
“แม่คนปัจจุบันของผมคือแม่ใหม่ที่พ่อแต่งงานด้วยอีกรอบครับ ส่วนแม่แท้ๆของผมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตอนผม4ขวบครับ”
******
ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าทั้งสองท่านทำงานอะไรอยู่ ตอนเด็กๆ เวลาผมถาม พวกท่านแค่ตอบว่า “งานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม”
ดูเหมือนว่างานที่พวกท่านทำ จะเป็นงานที่เขาคิดว่าอธิบายให้เด็กอย่างผมฟังไปก็ไม่เข้าใจอยุ่ดี
หรือบางทีพวกท่านอาจจะคิดว่าการอธิบายเรื่องงานให้ผมฟัง มันคือเรื่องน่ารำคาญก็เป็นได้
หลังจากนั้นผมก็เลิกถามงานของพวกท่านอีกเลย
เอาจริงๆ พวกท่านส่งเงินให้ผมใช้ตลอดในระดับมิใช่น้อยด้วย จะบอกว่าบ้านผมเข้าขั้นคนมีฐานะก็คงได้
ม่า แต่เงินได้มา ผมก็เอาไปลงกับเกมส์ออนไลน์ซะส่วนใหญ่นะ
แต่ว่าสิ่งที่พวกท่านสนใจมีแค่เรื่องงานเท่านั้น ส่วนลูกอย่างผม พวกท่านคงคิดว่าเลี้ยงเพราะเป็นหน้าที่ล่ะมั้ง
เมื่อก่อนตอนเด็กผมเคยพยายามจะอ้อนคุณแม่หลายครั้ง แต่ว่าคำตอบที่ได้คือ “ตอนนี้แม่งานยุ่งอยู่ ไว้คราวหน้านะ”
และแล้ว ช่วงที่ผมมีอายุ4ขวบ คุณแม่ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
บางทีความหมาย ไว้คราวหน้าของท่าน คงหมายถึงชาติหน้าแหละ
หลังจากแม่เสีย พ่อผมยิ่งหมกหมุ่นทุ่มเทกับงานที่อ้างว่า เป็นประโยชน์ต่อสังคม ยิ่งกว่าเก่า จนไม่ได้กลับมาบ้านเลย
และตั้งแต่ตอนนั้น ก็เป็นช่วงที่ผมเริ่มเข้าสู่โลกออนไลน์ มีเวลาว่างคือเล่นเกมส์เอาเป็นเอาตาย
แน่นอนว่าเรื่องไปโรงเรียน ผมไปตลอด แต่นอกจากไปโรงเรียน กิจกรรมที่ทำมีเพียงสิ่งเดียวคือกดเกมส์ออนไลน์
และด้วยความที่ผมพูดไม่เก่ง ไม่ได้มีสกิลเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน และไม่คิดจะหาโอกาสออกไปข้างนอกด้วย
สำหรับผม โลกมีเพียงแค่ห้องของผมที่มีคอมตั้งอยู่ในห้องเท่านั้น
หลังจากนั้นพอผมขึ้นม.2 พ่อของผมก็แต่งงานกับแม่ใหม่
ทางแม่ใหม่เองก็ไม่ได้สนใจผม ที่เคยคุยกันก็แค่ทักทายพอเป็นพิธี หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
อย่าว่าเลยนะ ขนาดพ่อเองก็เห็นนะ ว่าทุกวันนี้ทางผมเป็นยังไงบ้าง แต่ท่านก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
“ก็ตามที่ผมว่ามาครับ พ่อแม่ของผม ท่านไม่ได้สนใจอะไรในตัวผมอยู่แล้ว”
ผมอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับรินกะที่นั่งบนโซฟา
เอาจริงๆผมไม่ได้อยากจะหลอกเธอเรื่องสถานการณ์ครอบครัว แต่ว่าผมหาโอกาสพูดไม่ได้สักที
ไม่สิ ต่อให้ไม่พูด ผมคิดว่ารินกะที่เป็นคนฉลาดอาจจะคาดเดาเรื่องราวได้ทั้งหมดตั้งแต่ที่เธอเคยบอกผมว่า “ชั้นอยาก
ไปทักทายครอบครัวเธอ” แล้วเห็นชัดเลยว่าผมอึกอัก ดูขาดความกระตือรือร้นที่จะตอบ
“คาสึโตะคุง ชั้นว่าวิธีการพูดของพวกท่านมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนะ เพราะว่า…”
“เรื่องการเลี้ยงดูบุตรน่ะนะ ผมว่ามันก็เรื่องปกติในยุคสมัยนี้แหละ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกตรงไหนเลย”
ยุคสมัยนี้พ่อแม่ต้องหางาน หาเงิน เวลาในการเลี้ยงดูบุตรก็น้อยลง ไอ้การปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียว มันก็เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดมากขึ้นแหละ
“ไม่เหงา…เหรอคะ”
“ชินแล้วครับ”
แทนที่จะบอกว่าชิน ต้องบอกว่า ผมใช้อินเตอร์เน็ตถมช่องว่างในจิตใจถึงจะถูก
….ผมถึงชอบโลกออนไลน์อันใสซื่อด้วยเหตุผลนี้
“……..”
รินกะกลับมาอยู่ในท่าไตร่ตรองอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะพูดอะไรไม่ออก
แต่ว่าผมไม่ได้รู้สึกแปลกแยกอะไรนะ ใช่ ผมก็แค่นักเรียนมอปลายธรรมดา
ความรู้สึกเวลาเหงา ผมก็แค่ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์ก็แก้ปัญหาได้แล้ว เพราะโลกออนไลน์เติมเต็มทุกความปรารถนาที่ผมมีได้ครบถ้วน
“ผมไม่เหงาจริงๆครับ”
“คาสึโตะคุง…..”
“นอกจากนี้ ผมยังมีรินกะอยู่เคียงข้างนะครับ ผมเลยไม่อยากให้เรื่่องนี้ไปรบกวนจิตใจคุณ”
ผมเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเห็นรินกะเงียบยาว เพราไม่รู้ว่าตอนนี้ผมอยากให้คนที่ผมรักรู้เรื่องราวทั้งหมด หรือผมควรจะปิดบังเรื่องทุกอย่างไว้ต่อไปจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
“หรือจริงๆแล้วผมควรจะอธิบายเรื่องครอบครัวให้ผมฟังแต่แรกถึงจะดีกว่ารึเปล่าครับ”
“………”
“ผมคิดว่าเรื่องครอบครัวของผมไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะถ้าพ่อแม่ของผมมา จริงๆก็ไม่มีอะไรแล้ว”
“ทำไมเธอถึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายล่ะ”
“ผมไม่อยากให้เรื่องครอบครัวผมไปรบกวนจิตใจคุณครับ”
พอหลุดปากพูดออกไป ผมเริ่มรู้สึกเสียใจภายหลังซะแล้ว
เพราะคำพูดว่า รบกวนจิตใจ รินกะเลยตอบสนองกับคำพูดผมด้วยท่าทีเศร้าสร้อย สีหน้าเธอสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“งั้นเหรอ…เป็นเพราะว่าชั้น…พึ่งพาไม่ได้สินะ”
“ม…ไม่ใช่นะครับ..ผมก็แค่…”
คำพูดของผมถูกขัดจังหวะ
เพราะว่า..ริมฝีปากของผม ถูกริมฝีปากอ่อนนุ่มและหอมหวานของรินกะกดทับไว้
ผมยังไม่ทันจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างมันเร็วมากจริง
สายตาของผมตอนนี้เห็นแต่หน้ารินกะทุกองคาพยพ และแล้วผมก็เริ่มรู้ตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ผมถูกจูบ
แถมยังเป็นจูบแรกซะด้วย
เป็นจูบแรกที่ทะลวงใจอย่างคาดไม่ถึงเลย เพราะไม่มีเวลาให้แม้แต่จะคิดว่า ผมควรจะดีใจ หรือซาบซึ้งจูบของรินกะ
รินกะหยุดจูบ ผละจากริมฝีปากผม ผมกับเธอสูดลมหายใจเข้า รินกะเป็นฝ่ายพูดออกมาว่า
“ชั้นอยากให้เธอมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ชั้น”
“เอ๋?”
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะบอก ชั้นก็อยากให้เธอมอบให้ชั้น ชั้นอยากอ้อนเธอ และก็เป็นฝ่ายถูกอ้อนบ้าง ความรู้สึกว่าอยากเจอ ความดีใจ ความปลื้มปิติ ในฐานะที่เราเป็นสามีภรรยากัน ชั้นอยากให้เธอมอบทุกความรู้สึก ทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ชั้น “
รินกะกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมด้วยความร้อนแรง เธอกล่าวต่อ
“คาสึโตะคุงเคยบอกว่าเธอรับชั้นได้ทุกอย่างในสิ่งที่ชั้นเป็น ชั้นเองก็พร้อมจะรับทุกสิ่งที่เป็นคาสึโตะเหมือนกัน ไม่สิ ชั้นอยากจะรับมากกว่า น่าจะต่างกันนิดหน่อยในจุดนี้นะ…”
รินกะเงียบ ปล่อยให้เวลาผ่านไปประมาณหลายวินาที ก่อนจะเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น
“ชั้นอยากจะได้ทุกสิ่งของคาสึโตะ และในทางกลับกัน ชั้นเองก็อยากจะมอบทุกอย่างให้แก่คาสึโตะคุงด้วย”
“ทุกอย่างเหรอครับ..”
“คาสึโตะคุงเคยเอ่ยความคิดในหัวให้ชั้นฟังก็จริง แต่ว่าในใจของเธอ มีบางสิ่งเหมือนเธอเบรคไว้ ไม่ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด”
“เรื่องแบบนั้นมัน…”
“คาสึโตะคุงไม่เคยเป็นฝ่ายอ้อนชั้นเลยสักครั้งค่ะ”
“…..”
“นอกจากนี้ ชั้นก็ไม่เคยเห็นคาสึโตะหัวเราะอย่างใสซื่อจากใจเลยด้วย”
“….ผมน่ะ ชอบรินกะจริงๆนะครับ”
“อืม คาสึโตะคุงชอบชั้น เรื่องนี้ชั้นรู้ เพราะเธอเคยสารภาพความรู้สึกแล้ว ชั้นไม่เคยสงสัยเรื่องเธอรักหรือไม่รักชั้นเลย”
“อืม”
“คาสึโตะคุงไม่เคยคิดจะอ้อนชั้นเลย อาจเป็นเพราะว่าเธอไม่เคยรู้วิธีอ้อนใครก็ได้”
“…..”
ผมปฏิเสธไม่ออก
ถึงตอนเด็กผมจะเคยอ้อนแม่ ความทรงจำผมมีแค่เรื่องตอบว่า ไว้คราวหน้านะ มีแต่เรื่องถูกปฏิเสธทุกครั้งที่อ้อนล้วนๆ
บางทีอาจเป็นเพราะว่า ผมกลัวที่จะอ้อนใครสักคนก็ได้
“ถ้าให้อ้อนเลยตอนนี้ชั้นคิดว่ายาก แต่ว่าขอให้เธอเข้าใจก็พอว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายของคาสึโตะคุง ชั้นรักทุกอย่างที่เป็นเธอทั้งหมด และชั้นจะไม่มีวันปฏิเสธคาสึโตะคุงเด็ดขาด”
“รินกะ…”
“ในโลกออนไลน์ รินเป็นภรรยาของคาสึ ในโลกความจริง มิสึกิ รินกะ เป็นภรรยาของอายาโนะโคจิ คาสึโตะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นความคิดคำนึง หรือสิ่งที่อยู่ในใจ เธอปลดปล่อยให้ชั้นฟังได้ทุกอย่าง ชั้นจะรับมันด้วยความยินดีเอง นะ?”
“…….”
คำพูดของเธอ ตราตรึงใจผมมาก รินกะเผยความคิดและสิ่งที่อยู่ในใจเธอให้ผมรับรู้ทั้งหมด ผมรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันใจมากจากใจจริง
“คาสึโตะคุง ปิดเทอมฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ไปอยู่ที่บ้านชั้นมั้ย”
“….หมายถึงตลอดปิดเทอมฤดูร้อนเลยเหรอครับ”
“อืม อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดฤดูร้อน เดี๋ยวชั้นจะเตรียมที่อยู่ให้เธอเอง”
“เตรียมที่เหรอ…”
“รังเกียจเหรอ”
“เปล่าครับ ไม่รังเกียจเลย….”
ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วล่ะ เพราะแววตากลมโตสวยงามของเธอที่มองผมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นซะขนาดนั้น
“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้นะ”
รินกะหัวเราะอย่างอ่อนโยน กล่าวขณะสบตาผม
****
“เตรียมพร้อมเสร็จแล้วเนอะ คาสึโตะคุง”
“อืม เรียบร้อยละ ไม่น่ามีของที่ลืมแล้วล่ะ”
หลายวันผ่านไป ก็มาถึงปิดเทอมฤดูร้อนตามสัญญาว่าผมจะไปพักที่บ้านเธอตลอดปิดเทอม วันนี้ช่วงเที่ยงนิดๆ รินกะมาที่บ้านผมโดยให้คุณคาสึมิขับรถมาให้ รถกับคุณคาสึมิจอดรออยู่หน้าบ้านผม
“ออกเดินทางกันเลยนะ”
รินกะเปิดประตูห้องออกไป
ผมคว้ากระเป๋าเสื้อผ้า ออกจากห้อง ก่อนจะค่อยๆปิดประตูห้องตัวเอง
“……”
ห้องผม มันคือโลกที่ผมอยู่ ใช้ชีวิตเน็ตเกมเมอร์ นอกจากนั้นก็ไม่มีความทรงจำใดๆในห้องนี้เลย
การออกไปข้างนอก ไปอยู่กับรินกะ ผมกลับไม่มีความรู้สึกกลัวที่จะก้าวไปข้างหน้าเลย
บางที ความหมายของการใช้ชีวิตและผมเกิดมาทำไม อาจจะเริ่มจากย่างก้าวนี้ก็ได้
หรือมันอาจจะเริ่มตั้งแต่วันที่ผมได้รู้ว่าภรรยาผมในเกมส์ออนไลน์เป็นเน็ตไอดอลสุดฮอต
“คาสึโตะคุง?”
“ไม่มีอะไรครับ ไปกันเถอะ”
….ไม่เป็นไรหรอก
ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันกับคนรักของผม เด็กสาวผู้ตั้งใจเป็นภรรยาของผมในโลกความจริง ทุกอย่างต้องไปได้ดีแน่
*****
จบ CH12-2
อัดมันให้จบชั่วโมงครึ่งทีเดียว ตอนหน้าเปิดอีเว้นไปนอนค้างบ้านรินกะยาวๆละ บอกตรงๆว่าอีเว้นนี้ คิดคำพูดหวานๆไม่ออก ตอนอ่านมันซึ้งนะ แต่ตอนแปล แม่มง่อยว่ะ คิดว่าถ่ายทอดความหวานได้แค่ 70%จากเนื้อเรื่องเอง เพราะมันดูดีจริงๆ
แต่นั่นแหละ ถ้าว่ากันที่ตรรกะตัวละคร ผมว่ามันก็ออกไปทางอีหยังวะได้เลย จากตัวฮาเล่นเกมส์ง่อยๆ เมิงแปลงร่างเป็นเด็กชายเคล้าดราม่า ส่วนตัวผมรู้สึกแปลกๆ แต่นั่นแหละ ความหวานกับความฮามันกลบได้คือจบ แถมได้เห็นจูบแรกของทั้งคู่ด้วย ถือว่าไม่เลวเลย
ส่วนตอนหน้า จะกลับมามันส์ฮาขนาดไหน รอลุ้นได้เลย เพราะเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบแปลดราม่าชีวิตโอชิน เรื่องไหนไม่ฮาเราไม่แปลครับ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon